หลังจากที่รีวิวร้านชาบูหม่าล่าไปในโพสต์ที่แล้ว ร้านชาบูหม่าล่าที่เด็กก็กินได้ @ ไต้หวัน โพสต์นี้มัมมี้จะขอรวบรวมที่ที่ไปมาบางส่วนในทริปนี้กับ มัมมี้พาเที่ยว ตอนที่ 3 ค่ะ
อันดับแรกมัมมี้ขอชื่นชมการคมนาคมของไต้หวันให้ฟังกันก่อนนะคะ เนื่องจากในทริปนี้เป็นทริปแรกที่พวกเราเดินทางไปต่างประเทศแบบมีเด็กน้อยไปด้วย จึงมีการใช้รถเข็นเด็ก มีการขึ้นลิฟต์ในสถานีรถไฟฟ้า เดินบนฟุตพาท ใช้คาร์ซีต ฯลฯ แต่การเดินทางของเราราบรื่นมากกกกเลยค่ะ สถานีรถไฟและฟุตพาทของไต้หวัน friendly กับเด็กและผู้ใช้รถเข็นแบบต่างๆ มาก
เราเห็นผู้พิการที่ใช้วีลแชร์ไฟฟ้าแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเยอะมาก และรู้สึกว่าเขาเดินทางได้สะดวก มีคุณภาพชีวิตที่ดี ลิฟต์หาง่ายและไม่ต้องรอนาน ที่นี่ให้ Priority กับคนท้อง คนที่ต้องใช้รถเข็น และคนที่มีสัมภาระก่อนจริงๆ เราจะไม่ค่อยเห็นคนที่แข็งแรงหรือตัวเปล่าเล่าเปลือยมารอขึ้นลิฟต์ ส่วนฟุตพาทคือกว้างมากกกก ไม่มีมอเตอร์ไซค์วิ่ง ไม่ต้องกลัวรถเฉี่ยว ไม่ต้องลงไปเดินบนถนนสลับฟุตพาท ไม่ต้องกลัวเหยียบโดนกระเบื้องกับระเบิดแล้วน้ำกระเด็นใส่ รู้สึกปลอดภัยมากจริงๆ กับการเดินเข็นรถเข็นไปกับเด็กๆ
เอาล่ะ เรามาพูดถึงที่เที่ยวกันดีกว่า เริ่มกันที่…
อนุสรณ์สถานเจียง ไคเช็ค (Chiang Kai-Shek Memorial Hall)
ด้วยความที่เราเลือกจะไปตาม Land mark ที่คนอื่นไปกัน เพราะไม่ค่อยมีเวลาได้หาข้อมูล จึงไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก คิดว่าคนคงเยอะแน่ๆ แต่พอไปถึงก็รู้สึกว้าวววว เพราะมันดูยิ่งใหญ่มาก บวกกับเราไปกันตอนเย็น แสงแดดกำลังเป็นสีทองอาบอนุสรณ์สถานที่เป็นสถาปัตยกรรมจีนแห่งนี้พอดี โอ้โหววว มันสวยมากค่ะทุกคน!! ยิ่งตอนกลางคืนก็ยิ่งสวยเพราะเขาเปิดไฟ ทำให้ตึกดูโดดเด่นออกมาจากความมืดที่เป็นฉากหลัง
ที่นี่มีร้านชานมไข่มุกที่เขาเคลมว่าเป็นเจ้าแรกของโลก ชื่อร้าน Chun Shui Tang ซึ่งขายทั้งชานมไข่มุกและอาหาร ขอบอกว่าอาหารอร่อยมากกก (หรือเราหิวนะ) มีเก้าอี้เด็กไว้บริการด้วย สะดวกมากแม่
จิ่วเฟิ่น (Jiufen)
จิ่วเฟิ่นดูจะเป็นที่ที่ทุกคนที่มาไต้หวันจะต้องไปเยือนให้ได้ โดยเฉพาะร้านชาที่มีโคมสีแดงร้านนั้น แต่เราน่ะเหรอ เหอะๆๆ (หัวเราะแห้งๆ) พวกเราไปไม่เจอวิวแบบนั้นเพราะฟ้าฝนไม่เป็นใจ วันที่เราไปฝนดันตก หมอกหนา ทุกอย่างขาวโพลนไปสุดลูกหูลูกตา วันนี้แทบไม่มีรูปเลย เอิ่ม…เอาเป็นว่าเราจะรีวิวรถตู้ที่เราเช่าไปแทนก็แล้วกัน
อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่าทริปนี้เราเดินทางกับเด็ก และสมาชิกในทริปก็เยอะ ก็เลยตัดสินใจเช่ารถตู้พร้อมคนขับจาก Klook ในราคาประมาณ 8 พัน (รวมคาร์ซีต – เลือกเพิ่มตอนจอง) มีเวลาเที่ยวรวมเดินทาง 8 ชั่วโมง เราได้รถตู้ยี่ห้อ Mercedes-Benz ภายในรถสะอาดสะอ้าน กว้างขวาง คนขับสุภาพและบริการดีมากๆ ติดต่อง่าย (คนขับพูดภาษาอังกฤษได้) มาก่อนเวลานัดและถ่ายรูปให้ด้วย เลือกที่จอดรถที่เราไม่ต้องเดินเยอะ Standby รอเราตลอด พูดได้ว่าถ้าเราเดินออกมาจากสถานที่เที่ยวก็จะเจอคุณเขาทันที แถมเราเกินเวลามานิดนึงก็ใจดีไม่คิดเพิ่มด้วย ขอบคุณมากๆ มา ณ โอกาสนี้ค่ะ
เย่หลิว (Yehliu Geopark)
ตอนแรกคิดว่าจะเป็นโขดหินธรรมดาๆ เดินยากๆ ไม่น่าสนใจอะไรแบบนั้น แต่ผิดคาดค่ะ ถึงแม้ที่นี่จะเป็นโขดหินที่อยู่ติดทะเลแบบติดเลยยย (มันเป็นแหลมทอดยาวออกไปในทะเล) แต่ที่นี่เขาทำดีมากเลย support คนใช้รถเข็นสุดๆ คือ คนพิการที่ใช้รถเข็นก็ไปเที่ยวที่นี่ได้สะดวกมากกกก และรับรองว่าเที่ยวสนุกด้วย น่าเสียดายที่เราไม่ได้เอารถเข็นลงไปด้วย แต่ใช้เป้อุ้มแทน เพราะคิดว่าต้องเดินลำบาก ที่ไหนได้คือเดินแบกลูกปวดหลังไปอีก 555
ที่นี่จริงๆ มันก็เป็นโขดหินนั่นแหละค่ะ เป็นโขดหินรูปเห็ด แต่มันใหญ่เท่าตัวคนหรือใหญ่กว่านั้นไปอีก วันที่เราไปก็มีฝนตกปรอยๆ ลมแรง อากาศเย็น เลยไม่ค่อยมีรูปเท่าไหร่ แต่โดยรวมถือว่าดีเลย เพราะมันสะดวกสบายมาก มีจุดถ่ายรูปเยอะ ไม่ไก่กาอาราเล่เลยนะจ๊ะ มีคาเฟ่เล็กๆ (ไม่มีที่นั่งนะคะ) มีห้องน้ำ วิวสวยค่ะ
เอาล่ะ เรามาพูดถึงที่เที่ยวกันดีกว่า เริ่มกันที่…
อนุสรณ์สถานเจียง ไคเช็ค (Chiang Kai-Shek Memorial Hall)
ด้วยความที่เราเลือกจะไปตาม Land mark ที่คนอื่นไปกัน เพราะไม่ค่อยมีเวลาได้หาข้อมูล จึงไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก คิดว่าคนคงเยอะแน่ๆ แต่พอไปถึงก็รู้สึกว้าวววว เพราะมันดูยิ่งใหญ่มาก บวกกับเราไปกันตอนเย็น แสงแดดกำลังเป็นสีทองอาบอนุสรณ์สถานที่เป็นสถาปัตยกรรมจีนแห่งนี้พอดี โอ้โหววว มันสวยมากค่ะทุกคน!! ยิ่งตอนกลางคืนก็ยิ่งสวยเพราะเขาเปิดไฟ ทำให้ตึกดูโดดเด่นออกมาจากความมืดที่เป็นฉากหลัง
ที่นี่มีร้านชานมไข่มุกที่เขาเคลมว่าเป็นเจ้าแรกของโลก ชื่อร้าน Chun Shui Tang ซึ่งขายทั้งชานมไข่มุกและอาหาร ขอบอกว่าอาหารอร่อยมากกก (หรือเราหิวนะ) มีเก้าอี้เด็กไว้บริการด้วย สะดวกมากแม่
จิ่วเฟิ่น (Jiufen)
จิ่วเฟิ่นดูจะเป็นที่ที่ทุกคนที่มาไต้หวันจะต้องไปเยือนให้ได้ โดยเฉพาะร้านชาที่มีโคมสีแดงร้านนั้น แต่เราน่ะเหรอ เหอะๆๆ (หัวเราะแห้งๆ) พวกเราไปไม่เจอวิวแบบนั้นเพราะฟ้าฝนไม่เป็นใจ วันที่เราไปฝนดันตก หมอกหนา ทุกอย่างขาวโพลนไปสุดลูกหูลูกตา วันนี้แทบไม่มีรูปเลย เอิ่ม…เอาเป็นว่าเราจะรีวิวรถตู้ที่เราเช่าไปแทนก็แล้วกัน
อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่าทริปนี้เราเดินทางกับเด็ก และสมาชิกในทริปก็เยอะ ก็เลยตัดสินใจเช่ารถตู้พร้อมคนขับจาก Klook ในราคาประมาณ 8 พัน (รวมคาร์ซีต – เลือกเพิ่มตอนจอง) มีเวลาเที่ยวรวมเดินทาง 8 ชั่วโมง เราได้รถตู้ยี่ห้อ Mercedes-Benz ภายในรถสะอาดสะอ้าน กว้างขวาง คนขับสุภาพและบริการดีมากๆ ติดต่อง่าย (คนขับพูดภาษาอังกฤษได้) มาก่อนเวลานัดและถ่ายรูปให้ด้วย เลือกที่จอดรถที่เราไม่ต้องเดินเยอะ Standby รอเราตลอด พูดได้ว่าถ้าเราเดินออกมาจากสถานที่เที่ยวก็จะเจอคุณเขาทันที แถมเราเกินเวลามานิดนึงก็ใจดีไม่คิดเพิ่มด้วย ขอบคุณมากๆ มา ณ โอกาสนี้ค่ะ
เย่หลิว (Yehliu Geopark)
ตอนแรกคิดว่าจะเป็นโขดหินธรรมดาๆ เดินยากๆ ไม่น่าสนใจอะไรแบบนั้น แต่ผิดคาดค่ะ ถึงแม้ที่นี่จะเป็นโขดหินที่อยู่ติดทะเลแบบติดเลยยย (มันเป็นแหลมทอดยาวออกไปในทะเล) แต่ที่นี่เขาทำดีมากเลย support คนใช้รถเข็นสุดๆ คือ คนพิการที่ใช้รถเข็นก็ไปเที่ยวที่นี่ได้สะดวกมากกกก และรับรองว่าเที่ยวสนุกด้วย น่าเสียดายที่เราไม่ได้เอารถเข็นลงไปด้วย แต่ใช้เป้อุ้มแทน เพราะคิดว่าต้องเดินลำบาก ที่ไหนได้คือเดินแบกลูกปวดหลังไปอีก 555
ที่นี่จริงๆ มันก็เป็นโขดหินนั่นแหละค่ะ เป็นโขดหินรูปเห็ด แต่มันใหญ่เท่าตัวคนหรือใหญ่กว่านั้นไปอีก วันที่เราไปก็มีฝนตกปรอยๆ ลมแรง อากาศเย็น เลยไม่ค่อยมีรูปเท่าไหร่ แต่โดยรวมถือว่าดีเลย เพราะมันสะดวกสบายมาก มีจุดถ่ายรูปเยอะ ไม่ไก่กาอาราเล่เลยนะจ๊ะ มีคาเฟ่เล็กๆ (ไม่มีที่นั่งนะคะ) มีห้องน้ำ วิวสวยค่ะ
ตลาดกลางคืนเหราเหอ (Raohe Night Market)
จากที่ดูรีวิวมา ใครๆ ก็บอกว่าของกินเยอะ แต่ที่ไปมาคือสู้ตลาดนัดไทยไม่ได้เลยค่ะ ส่วนตัวคิดว่าไปย่านซีเหมินดูจะมีอะไรให้กินและให้ดูมากกว่า
ย่านซีเหมินติง (Ximending)
เราพักที่ย่านนี้ค่ะ เพราะเดินทางสะดวกและช้อปปิ้งง่ายๆ แถมของกินก็เยอะ เรียกได้ว่าครบจบที่เดียว อ้อ! มีร้านนึงที่อร่อย แต่น่าเสียดายที่ไม่มีโต๊ะนั่งจริงจัง มีแต่เก้าอี้วางเรียงกันเป็นตับ คือ ร้านบะหมี่อาจง อร่อยจริงๆ แต่ไม่เหมาะกับการพาเด็กไปด้วย แล้วก็มีร้านเสื้อผ้าแบรนด์ไต้หวันที่เนื้อผ้าดี ราคาโอเค คือ ร้าน NET ค่ะ ก็คล้ายๆ Uniqlo แต่เป็นแบรนด์ไต้หวัน ส่วนร้านเสื้อผ้าร้านอื่นๆ ที่สไตล์น่ารักๆ ก็มีหลายร้าน ราคาไม่แพงด้วย แต่ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าสำหรับโซนอากาศเย็น เอามาใส่ที่ไทยคือเหงื่อท่วม รักแร้เปียกจ้า 555
นอกจากนี้ก็มีวัดหลงซาน ตึก Taipei 101 และที่อื่นๆ ที่น่าสนใจอีก ใครที่ไปมาแล้วอยากแชร์ประสบการณ์หรือใครที่กำลังจะไปถามอะไรก็คอมเม้นท์กันมาได้เลย และอย่าลืมติดตาม มัมมี้พาไป ด้วยนะคะ
จากที่ดูรีวิวมา ใครๆ ก็บอกว่าของกินเยอะ แต่ที่ไปมาคือสู้ตลาดนัดไทยไม่ได้เลยค่ะ ส่วนตัวคิดว่าไปย่านซีเหมินดูจะมีอะไรให้กินและให้ดูมากกว่า
ย่านซีเหมินติง (Ximending)
เราพักที่ย่านนี้ค่ะ เพราะเดินทางสะดวกและช้อปปิ้งง่ายๆ แถมของกินก็เยอะ เรียกได้ว่าครบจบที่เดียว อ้อ! มีร้านนึงที่อร่อย แต่น่าเสียดายที่ไม่มีโต๊ะนั่งจริงจัง มีแต่เก้าอี้วางเรียงกันเป็นตับ คือ ร้านบะหมี่อาจง อร่อยจริงๆ แต่ไม่เหมาะกับการพาเด็กไปด้วย แล้วก็มีร้านเสื้อผ้าแบรนด์ไต้หวันที่เนื้อผ้าดี ราคาโอเค คือ ร้าน NET ค่ะ ก็คล้ายๆ Uniqlo แต่เป็นแบรนด์ไต้หวัน ส่วนร้านเสื้อผ้าร้านอื่นๆ ที่สไตล์น่ารักๆ ก็มีหลายร้าน ราคาไม่แพงด้วย แต่ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าสำหรับโซนอากาศเย็น เอามาใส่ที่ไทยคือเหงื่อท่วม รักแร้เปียกจ้า 555
นอกจากนี้ก็มีวัดหลงซาน ตึก Taipei 101 และที่อื่นๆ ที่น่าสนใจอีก ใครที่ไปมาแล้วอยากแชร์ประสบการณ์หรือใครที่กำลังจะไปถามอะไรก็คอมเม้นท์กันมาได้เลย และอย่าลืมติดตาม มัมมี้พาไป ด้วยนะคะ
โพสต์ที่น่าสนใจ: ร้านชาบูหม่าล่าที่เด็กก็กินได้ @ ไต้หวัน
0 ความคิดเห็น